เราเรียนรู้ภาษาเริ่มจาก การฟังและการพูด เป็นการเรียนรู้ที่จะเข้าใจความหมายของเสียง และสื่อสารออกมาได้ ทั้งเสียงสื่ออารมณ์ความรู้สึก เสียงสูง-ต่ำ น้ำเสียงราบเรียบสม่ำเสมอ และ เสียงของคำศัพท์ที่ใช้เพื่อสื่อความหมาย
จากนั้นจึงเริ่มหัดอ่าน-เขียน เป็นการเรียนรู้ที่จะใช้ภาพหรือสัญลักษณ์แทนเสียงของคำศัพท์ ทั้งสัญลักษณ์แทนเสียงที่เปล่งออกมาแล้วมีความหมาย เช่น พ่อ แม่ มือ ตา หู ฯลฯ หรือ สัญลักษณ์แทนเสียงที่ไม่มีความหมาย เช่น ก ข -ะ ไ- ฯลฯ
เมื่อจำสัญลักษณ์ที่แทนความหมายได้บ้างแล้ว เราจะเริ่มเรียนรู้รูปแบบ หรือโครงสร้างของภาษา โดยการเทียบเคียงเสียงด้วยรูป หรือ ด้วยการเปล่งเสียง ซึ่งในขั้นนี้จะเกิดจากเทียบเคียงด้วยตัวเอง หรือ ครูนำการเทียบเคียง เช่น ขา ตา มา หรือ ตา ตี เตา หรือ _าง = กาง คาง นาง วาง หรือ การผันเสียง เช่น ปา ป่า ป้า ป๊า ป๋า
ขั้นสูงสุดคือการแตกแขนงทางภาษา เป็นการเห็นรูปแบบหรือการเห็นโครงสร้างภาษา รูปคำ ประโยค การแยกแยะคำ การสร้างคำใหม่ จนพลิกแพลงไปใช้ได้ และจะเกิดการเพิ่มพูนคำศัพท์ เห็นถึงคำที่เชื่อมโชงกันจนสามารถสร้างอภิธานศัพท์หรือกลุ่มคำที่สามารถอธิบายสิ่งต่างๆ ใช้เชิงนามธรรมหรือความหมายที่แท้จริงของสิ่งนั้นได้ ซึ่งจะเกิดขึ้นด้วย การฝึกฝน การสั่งสม และ การสร้างอภิธานศัพท์
ขอบคุณค่ะ
ตอบลบ